อิริยาบถที่ใกล้เคียงกับพระพุทธเจ้า

          การที่ข้าพเจ้านำเอาพฤติการณ์ของเจ้าคุณนรรัตน์ฯไปเปรียบเทียบกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ใช่ว่าจะยกฐานะไปเคียงคู่กันก็หาไม่ เพียงแต่ต้องการให้ทราบว่าพระพุทธเจ้านั้นพระองค์ปฏิบัติหนทางที่จะบรรลุผลที่ปรารถนาเป็นสายกลางๆไม่ยิ่งไม่หย่อน แต่เจ้าคุณนรรัตน์ฯปฏิบัติค่อนข้างรุนแรง เป็นการทรมานตนบางอย่างจนตลอดชีวิตอย่างน่าใคร่ครวญ

          ๑. พระพุทธเจ้า       ทรงผนวชเมื่อพระชนมายุ ๒๙ ปี

               เจ้าคุณนร          บวชเมื่ออายุ ๒๙ ปี

          ๒. พระพุทธเจ้า       สำเร็จพระสัมมาสัมโพธิ์ญาณใช้เวลา ๖ ปี

               เจ้าคุณนร         อุปสมบทครบ ๖ ปี ก็ตัดสินใจไม่ลาสิกขาบทจนตลอดชีวิต

          ๓. พระพุทธเจ้า       มีผู้ปรนนิบัติคือ พระอานนท์ผู้เป็นพุทธอุปฐาก

               เจ้าคุณนร        ทำทุกอย่างเองตั้งแต่บวช(ยกเว้นช่วงหนึ่งเคยมีศิษย์รับใช้ชื่อ เปี่ยม - ผู้นำเสนอ)

          ๔. พระพุทธเจ้า       มีแพทย์ประจำพระองค์คือ หมอชีวกโกมารภัจจ์ เป็นผู้รักษาพยาบาล

               เจ้าคุณนร         ไม่เคยใช้ยารักษาโรคแม้ถูกงูกัดหรือเป็นมะเร็ง (ยกเว้นก่อนมรณภาพที่อนุญาต ให้หมอไพบูลย์ ชำระแผล - ผู้นำเสนอ)

          ๕. พระพุทธเจ้า     สละราชบัลลังก์พร้อมทรัพย์มหาศาล เสด็จออกบวชอย่างไม่มีเยื่อใยในราชสมบัติ

               เจ้าคุณนร          เมื่อตัดสินใจบวชตลอดชีวิตก็สละทรัพย์ส่วนตัวบำรุงพระพุทธศาสนาจนหมดสิ้น

          ๖. พระพุทธเจ้า       เมื่อตรัสรู้แล้วก็ท่องเที่ยวสั่งสอนเวไนยสัตว์หรือที่เรียกว่า โปรดสัตว์ ตลอดกาล

               เจ้าคุณนร           ไม่เคยออกนอกวัดไปไหนเลยตลอดจนละโลกไป

          ๗. พระพุทธเจ้า       เสวยพระกระยาหารตามกาลเวลาและเสวยอาหารทุกชนิด

              เจ้าคุณนร           ฉันอาหารจำกัดเวลาและชนิด (ฉันเจในรูปแบบที่ท่านคิดเอง - ผู้นำเสนอ)

          เท่าที่เปรียบเทียบอย่างคร่าวๆ จะเห็นได้ว่า พฤติการณ์บางอย่างของเจ้าคุณนรรัตน์ฯออกจะเดินสายเขม็งคือค่อนข้างตึงอยู่มาก นับว่าอดทน และทรมานร่างกายอย่างสาหัส สำหรับเรื่องรู้วันมรณะนั้น ไม่ได้นำมาเทียบกันแม้ว่าท่านจะรู้วันตายเนื่องจากในยุคนี้ก็มีบุคคลที่ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด ปรากฏว่ารู้วันตายก็มีอยู่บ้างเช่นกัน

คัดลอกมาเพียงบางส่วนจาก “ ประวัติเจ้าคุณนรรัตน์ ” เขียนโดย พระอมรฤดี ( นารถ บุณยเกียรติ )

ผู้นำข้อมูลมาเผยแพร่ : ธีรวัชร จรเจริญ

          หมายเหตุ : คุณพระอมรฤดีเป็นข้าราชบริพารใน ร.๖ ที่ใกล้ชิดและรู้เรื่องของท่านเจ้าคุณนรฯเป็นอย่างดี เนื่องจากรู้จักมักคุ้นตั้งแต่สมัยรับราชการด้วยกันต่อมาเมื่อท่านเจ้าคุณนรฯบวชก็ยังมาหาที่วัดเทพฯ อยู่เสมอๆ ทั้งนี้คุณพระอมรฤดีเป็นผู้ที่สนใจฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับอำนาจทางจิต (เช่นเดียวกับท่านเจ้าคุณนรฯ ก่อนบวชที่เคยฝึกกสิณทำสมาธิ) ท่านผู้นี้เองที่บางกอกไทม์ได้ไปสัมภาษณ์ และนำมาเสนอข่าวท่านเจ้าคุณนรฯ ว่า “พบพระอรหันต์กลางกรุง” ในบั้นปลายชีวิตท่านได้ไปพำนักที่บ้านบางแคและได้แต่งตำราทางจิต และวิญญาณมากมาย โดยเรื่องที่นำมาเสนอนี้ถูกตีพิมพ์ไว้ในตอนท้ายของหนังสือ “อำนาจดวงจิตต์” (มี 3 เล่ม)แล้วจึงนำมารวมเล่มเป็น “ประวัติเจ้าคุณนรรัตน์” (หนังสือออกเมื่อประมาณ พ.ศ. 2500) ครับ

......................................