พระเครื่องทั้งหมด 3781 ชิ้น
ตะกร้าพระเครื่อง : ( )
สารบัญหลัก
พระท่านเจ้าคุณนรฯ (1394) พระเครื่องอื่น ๆ (973) เครื่องรางของขลัง (10) พระบูชา (67)
บทความ
ประวัติสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์
ประวัติท่านเจ้าคุณนรฯ
ประวัติสมเด็จพระวันรัต
ตำนานพระพุทธรูป
หลัการดูพระเบื้องต้น
เปิดโลกสมเด็จ
เปิดโลกพระกรุ
ทำเนียบสมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติการสร้างพระเครื่อง
อ่านบทความทั้งหมด
กระดานสนทนา
เว็บบอร์ดพระวัดเทพศิรินทราวาส เว็บบอร์ดพระทั่วไป ซื้อขายแลกเปลี่ยน
เมนูช่วยเหลือ
วิธีการบูชา วิธีการชำระเงิน คำถาม-ตอบ เกี่ยวกับเรา แผนที่ร้านฯ ติดต่อเรา นโยบายคุกกี้
อัตราแลกเปลี่ยน
ตรวจสอบการจัดส่งสินค้า
 
ชำระผ่านธนาคาร ธ.ไทยพาณิชย์ 114-2-16175-0 ธ.กรุงเทพ 905-0-00725-2 ธ.กรุงไทย 086-037-0-04433-9


หูทิพย์ตาทิพย์ 1,2,3


หูทิพย์ตาทิพย์ 1

          เหตุเกิดเมื่อระหว่างปี 2503-2504 นายพิทักษ์ พยุงธรรม หลานชายท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี เลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งขณะนั้นยังมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี นายพิทักษ์ พยุงธรรมเวลานั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.ศ. 3 ของโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ โดยปรกติเป็นเด็กแก่นเอาการอยู่

          ค่ำวันหนึ่งในระหว่างเวลาดังกล่าว ที่หน้ากุฏิท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิท่านธมมวิตกโกไกลโขพอดู ไม่มีทางที่จะได้ยินการสนทนาใด ๆ ถึงกันอย่างปรกติธรรมดาได้เลย วันนั้นนายพิทักษ์ ได้ตั้งวงนินทาท่านธมมวิตกโกกับหมู่บรรดาเพื่อนฝูงศิษย์วัดด้วยกัน ซึ่งเป็นคำกล่าวหานินทาที่ออกจะฉกรรจ์อยู่

          “กูว่าพระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ…..” เขาเอ่ยขึ้น

          แล้วเขาก็เล่าต่อไปว่า ท่านธมมวิตกโกได้ถ่ายปัสสาวะใส่ตุ่มไว้ แล้วท่านก็เอามาอาบเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค หรือแก้ “เคล็ด” ทางไสยศาสตร์บางอย่าง ซึ่งตัวเขาไม่อาจจะทราบได้แน่ สภาพการณ์ความเป็นไปในวัดเทพศิรินทร์ขณะนั้นก็ชวนให้น่าเชื่อตามคำกล่าวหาของนายพิทักษ์อยู่ เพราะขณะนั้นน้ำประปาในวัดขัดข้องจึงเกิดขาดแคลน ไม่มีน้ำจะใช้อาบกินอย่างปรกติธรรมดาได้  แต่ท่านธมมวิตกโกกลับมีน้ำสรงน้ำอาบได้เช่นปรกติ

          บรรดาเพื่อนฝูงนายพิทักษ์ จึงเชื่อตามคำบอกเล่ากล่าวหาโดยสนิทใจว่า ท่านธมมวิตกโกจะต้องมีจริตไม่ปรกติเป็นแน่ ถึงกับเอาปัสสาวะของท่านเองมาสรงต่างน้ำ

          พอวันรุ่งขึ้นเข้าใจว่าตอนสาย นายพิทักษ์มีเหตุจะต้องเดินผ่านไปทางกุฏิท่านเพื่อไปโรงเรียนตามปรกติ ทันทีที่ท่านเห็นหน้านายพิทักษ์ ท่านก็กวักมือเรียกให้เข้าไปหาท่าน ท่านพาเข้าไปในกุฏิให้นั่งลงแล้วท่านก็กล่าวขึ้นว่า

          “ที่เธอนินทาฉันเมื่อคืนนี้น่ะ ไม่จริงหรอกนะ เธอเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น…”

          ทำเอานายพิทักษ์ พยุงธรรมถึงกับสะดุ้งและงุนงงอย่างที่สุด จนด้วยเกล้าจริง ๆ ไม่รู้ว่าท่านทราบเรื่องได้อย่างไร

          จากนั้นท่านก็สั่งสอนหลักธรรมที่มีคติเตือนใจหลายประการ เสร็จแล้วจึงให้เขากลับออกมา

          นับแต่วันนั้นมานายพิทักษ์ พยุงธรรม ก็บังเกิดความกลัวเกรงในท่านธมมวิตกโกเป็นที่สุด เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเจออภินิหารพระดี แสดงทีเด็ด ให้เขาต้องเข็ดขยาดหลาบจำเป็นครั้งแรกนี่แหละ ทำให้เขาไม่กล้าจาบจ้วงล่วงเกินใด ๆ ต่อท่านธมมวิตกโกตลอดไปจนชั่วชีวิตเลยทีเดียว

          “พระองค์นี้เอ็งอย่าไปทำเล่น ๆ กับท่านนะ…..”

          เขาเตือนเพื่อนฝูงเช่นนี้อยู่เสมอ และทุกครั้งที่เล่าเรื่องนี้ นายพิทักษ์ จะมีอาการขนลุกขนพองอย่างเห็นได้ชัด

          เขาเชื่อตลอดมาว่าท่านธมมวิตกโกนี้ ต้องมีหูทิพย์หรือตาทิพย์อย่างเด็ดขาด จึงสามารถล่วงรู้คำนินทากล่าวหาของเขาในครั้งนั้นได้

          จากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว และประสบการณ์ต่าง ๆ จากที่อื่นอีกหลายครั้ง หลายบุคคล จึงทำให้เชื่อแน่ว่าท่านธมมวิตกโกนี้จะต้องมีญาณวิเศษ มีทิพยจักขุญานหรือทิพยโสต สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้หมดสิ้น

..........................................

 หูทิพย์ตาทิพย์ 2

          ราวปี 2512-2513 นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ พร้อมด้วยคุณลุงแก้ว ศิริรัตน์ บิดา ได้นำน้ำผึ้งไปถวายท่าน ท่านได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติตอนกำเนิดพระพุทธรูปปางเลไลยก์ อันเป็นเหตุการณ์ตอนที่พระพุทธองค์ประทับอยู่ที่เมืองโกสัมพี แล้วบรรดาพระภิกษุสงฆ์สาวกเกิดแตกสามัคคีก่อการวิวาทกัน แม้สมเด็จพระบรมศาสดาจะทรงพร่ำสอนสักเท่าใด ๆ พระสงฆ์เหล่านั้นก็ยังไม่ยอมปรองดองกันได้ พระพุทธองค์จึงทรงปลีกพระองค์เสด็จออกไปอยู่ในป่าแต่ตามลำพัง จนได้มีพญาช้างเชือกหนึ่ง และพญาลิงตัวหนึ่งเข้าไปตั้งหน้าปรนนิบัติรับใช้พระพุทธองค์เป็นอันดี โดยพญาวานรได้คิดอ่านไปจัดหารวงผึ้งมาถวายให้เสวย ฯลฯ

          เรื่องราวต่าง ๆ อันปรากฏตามที่ท่านเล่าในวันนั้นผิดแปลกแตกต่างไปจากที่เคยได้ยินได้ฟังมา หรือที่ได้เคยอ่านผ่านสายตามา โดยมีรายละเอียดปลีกย่อยพิสดารน่าฟังยิ่ง

          โดยเฉพาะคุณลุงแก้วนั้น ในอดีตเคยเป็นพระครู เคยเป็นเจ้าอาวาสมาแล้ว อายุอานามก็น้อง ๆ ท่านธมมวิตกโก ได้เล่าเรียนได้รับฟังจากที่ต่าง ๆ มาเป็นอันมาก ทั้งอ่านมาก ฟังมาก และคิดว่าก็รู้มากมาพอควร ทั้งจากพุทธประวัติและอนุพุทธประวัติ ก็ไม่เคยได้พบได้ฟังเรื่องราวรายละเอียดอย่างน่าพิศวงอย่างนี้ จึงเฝ้าตั้งหน้าซักถามเรื่องราวต่าง ๆ จากท่านเพิ่มเติมอยู่ตั้งนานสองนาน ก็ปรากฏว่าไม่อาจที่จะ “ไล่” ท่านให้ “จน” ได้สักที

          นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดมากจริง ๆ

          จึงเชื่อกันว่าเรื่องอย่างนี้จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นอกจากเป็นการหยั่งรู้ด้วยญาณของท่านธมมวิตกโกนั่นเอง

          สมแล้วที่กล่าวกันว่าท่านธมมวิตกโกเป็นยอดพหูสูตในยุคนี้

          คราวหนึ่งตอนปลายปี 2513 ระหว่างที่ท่านกำลังอาพาธด้วยแผลมะเร็งที่ต้นคออย่างหนัก นายแพทย์สุพจน์ ศิริรัตน์ ได้นำไฮโดรเยนและแอลกอฮอล์ไปถวายเพื่อให้ท่านใช้ชะล้างแผล พร้อมกันนั้นก็ถวายน้ำผึ้งขวดหนึ่ง ของอื่น ๆ ท่านรับประเคนไว้หมดรวม 6 ขวดด้วยกัน แต่น้ำผึ้งนั้นท่านให้คืนพร้อมกับให้ศีลให้พรตามธรรมเนียม โดยท่านบอกว่าน้ำผึ้งเก่ายังมีเหลือพอเพราะท่านใช้ละลายน้ำฉันคราวละไม่กี่หยดเท่านั้น

          น้ำผึ้งที่ท่านให้คืนไปนี้ท่านบอกว่าสามารถใช้เป็นยาได้ ใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็อธิษฐานจิตกินเป็นยาได้

           ด้วยความตื่นเต้นดีใจที่ได้น้ำผึ้งวิเศษของเสกจากท่านมา นายแพทย์สุพจน์จึงเที่ยวโฆษณาประชาสัมพันธ์ตามหมู่บรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงมิตรสหายรายทางตลอดค่ำคืนวันนั้น โอ้อวดถึงคุณวิเศษของน้ำผึ้งขวดนั้นที่ท่านเสกให้มา ใครเจ็บไข้ได้ป่วยก็ขอให้บอกจะแจกให้บริโภคฟรี ๆ

          ครั้นวันรุ่นขึ้นนายแพทย์สุพจน์ มีกิจธุระที่จะต้องเข้าไปพบท่านที่วัดอีก ด้วยเมื่อวันวานนั้นถวายน้ำไฮโดรเยนขาดไปขวดหนึ่ง เพราะระหว่างทางได้พบพระอาจารย์ที่ชอบพอกันมาจากอ่างทองรูปหนึ่งจึงถวายไปหนึ่งขวด วันต่อมาจึงนำไปถวายท่านธมมวิตกโกเพิ่มอีกขวดหนึ่งโดยนำไปรอคอยถวายท่านที่ข้างกุฏิ เพราะท่านยกไม่ไหว

          ทันใดที่พบกัน ท่านได้ชี้หน้าพร้อมกับต่อว่านายแพทย์สุพจน์ทันที

          “หมอ เรื่องอะไรของเราเที่ยวเอาน้ำผึ้งไปโพนทะนา เราเป็นเอเย่นต์น้ำผึ้งหรือยังไง” แล้วท่านก็กล่าวต่อไปอีกว่า “ยาของเราที่ร่ำเรียนมา ทำไมไม่โพนทะนา…..”

          ทำเอานายแพทย์สุพจน์งุนงงต่อเหตุการณ์เป็นอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าท่านล่วงรู้ถึงการโฆษณาประชาสัมพันธ์สรรพคุณของน้ำผึ้งเสกของท่านได้อย่างไรกัน

............................................

หูทิพย์ตาทิพย์ 3

          ระหว่างที่ทางบ้านคุณลุงแก้ว ศิริรัตน์ ตลาดคลอง 16 ตำบาลดอนฉิมพลี อำเภอบางน้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา กำลังเร่งพิมพ์พระเป็นการใหญ่ เนื่องจากได้ถวายผงให้ท่านเสกไตรมาสในพระอุโบสถนำมาเก็บไว้เฉย ๆ นานถึง 2 ปีแล้ว ท่านได้เตือนนายแพทย์สุพจน์ให้นำไปสร้างเป็นองค์พระมาหลายครั้งแล้ว แต่จนแล้วจนรอดไม่มีโอกาสสร้างได้สักที เฝ้าแต่ผลัดวันประกันพรุ่งเรื่อยมา จนกระทั่งได้ทราบว่าทางวัดเทพศิรินทราวาสจะมีพิธีสวดอธิษฐานจิตครั้งใหญ่โดยท่านธมมวิตกโก ในวันเสาร์ห้า ตรงกับวันที่ 25 เมษายน 2513 โดยท่านเจ้าคุณอุดมฯ แต่ครั้งยังเป็นพระครู ดำริจัดทำขึ้นอย่างเป็นการใหญ่เพื่อหารายได้สร้างโรงเรียนนวมราชานุสรณ์ วัดวังกระโจม จังหวัดนครนายก ทางนายแพทย์สุพจน์ กับญาติพี่น้องจึงได้ลงมือสร้างพระผงเป็นการใหญ่ เพื่อให้ทันเข้าร่วมพิธีสวดอธิษฐานจิตกับทางวัดเทพศิรินทร์ การพิมพ์พระผงผสมครั้งนั้น ได้ทำกันเองอาศัยวงศาคณาญาติช่วยกันทำอย่างอุตสาหกรรมในครัวเรือน มิได้จ้างให้ช่างทำแต่อย่างไรด้วยเกรงจะมีการปลอมแปลงเกิดขึ้น หรือมีการยักยอกนำผงวิเศษไปใช้ในการอย่างอื่น พระที่ทำกันขึ้นเองครั้งนั้นจึงไม่มีความสวยงามใด ๆ และทำกันในบ้านปราศจากพิธีกรรมโดยสิ้นเชิง

          ระยะนั้นเอง ค่ำวันหนึ่งนายแพทย์สุพจน์ ก็ยังไปวัดเทพศิรินทราวาสตรงไปยังพระอุโบสถ เพื่อจะไปกราบและคุยกับท่านอย่างธรรมดา ๆ เพราะไม่ได้มีกิจธุระสำคัญอันใด ขณะนั้นเป็นเวลาราวหนึ่งทุ่ม ท่านเสร็จจากทำวัตรค่ำแล้วและกำลังมีแขกเหลื่อไปสนทนาอยู่กับท่านราว 10 คน เมื่อเห็นดังนั้นนายแพทย์สุพจน์จึงถือโอกาสหลบบังเสาอยู่ห่าง ๆ ก่อน ยังไม่แสดงตัวให้ท่านรู้ คิดว่าเป็นเวลาค่ำมืดแล้วท่านคงจะไม่เห็นและไม่ทราบว่าเป็นใคร ทันใดนั้นเอง ท่านก็เรียกหาขึ้นมาทีเดียว

          “หมอรึ มานี่ ๆ”

          นายแพทย์สุพจน์ จึงต้องรีบคลานเข้าไปกราบท่านใกล้ ๆ

          “ไปบอกพ่อนะ พระที่กำลังทำอยู่ให้เลิกได้แล้ว” ท่านเอ่ยขึ้นแล้วท่านก็กล่าวต่อไปว่า

          “การทำพระนั้นต้องมีพิธีกรรม………”

          ทำเอานายแพทย์สุพจน์นั่งงงไปอีกครั้งหนึ่ง ทำไมท่านจึงทราบได้ว่าทางบ้านคลอง 16 ซึ่งอยู่ห่างไกลมากกำลังสร้างพระจากผงไตรมาสของท่าน ระยะนั้นก็ไม่มีใครทางบ้านไปมาหาสู่หรือได้พบปะบอกเล่ากันท่านเลย เฉพาะอย่างยิ่งนายแพทย์สุพจน์ซึ่งใกล้ชิดกับท่านมากที่สุดในหมู่บรรดาญาติด้วยกัน ก็ว่างเว้นมิได้เข้าไปในวัดเทพศิรินทร์ในระยะนั้นเป็นเวลานานพอดู แต่ท่านสามารถล่วงรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างไร

          บางคนเล่าว่า ท่านรู้จนกระทั่งในครั้งนั้นได้ทำพระตกเปื้อนน้ำครำไปองค์หนึ่ง เหตุเกิดเพราะได้เอาพระผงที่พิมพ์เสร็จแล้วนั้นไปผึ่งบนหลังคาครัวหลังบ้างซึ่งสร้างอย่างลวก ๆ มิได้มีความแข็งแรงสวยงามแต่อย่างไร เมื่อต้องรับน้ำหนักมาก ๆ เข้าหลังคาทานไม่ไหวก็หักพังลงมา ยังผลให้พระผงที่ผึ่งไว้หล่นกระจายไปอยู่กับพื้นดินและองค์หนึ่งร่วงไปอยู่ในน้ำครำสกปรก

          ท่านก็รู้และพูดจาว่ากล่าวได้ถูกต้องยิ่งกว่าตาเห็น

..........................................

 
 
ตะกร้าพระเครื่อง

ดูตะกร้าพระเครื่อง
แจ้งการชำระเงิน
ตรวจสอบวันจัดส่ง
สถานะการส่งพระเครื่ง

พระเครื่องแนะนำ


เหรียญหันข้างพิมพ์ใหญ่ เนื้อทองคำ จัดสร้างเพียง 100 องค์เท่านั้นเองครับ


บาท


เหรียญหันข้างพิมพ์เล็ก เนื้อทองคำ จัดสร้างจำนวนน้อยมาก


บาท


เหรียญโภคทรัพย์ พิมพ์?เล็กเนื้อทองคำ สร้างเพียง 243 องค์เท่านั้น


บาท


หนุมาน 500 หลวงปูททิม พระสวยเดิม มีโค๊ต ตอก ตรงตามมาตราฐานสากล


บาท


รูปหล่อปั้มหลวงพ่อเงินฯบางคลานสร้างปี พ.ศ. 2515 สภาพสวยเดิม ๆ


บาท


เหรียญ ร.6 หลังรูปเหมือน พิมพ์เล็ก เนื้อทองคำ ราคา บาท พร้อมบัตรรับรองพระแท้


39000 บาท


พระกริ่งตากสินมหาราช ปี พระดีพิธียิ่งใหญ่ของค่ายอดิสร จังหวัดสระบุรี


15000 บาท


พระสมเด็จวัดระฆัง รุ่นอนุสรณ์ 100 ปี พิมพ์เส้นดายใหญ่ สภาพสวยเดิม ๆ


บาท


รูปเหมือนสมเด็จโต รุ่น100ปี วัดระฆังฯ เนื้อเงิน พิมพ์ 3 ชาย พร้อมบัตรรับรองพระแท้


บาท


เหรียญใบสาเกหลวงพ่อวัดบ้านแหลม เนื้อเงิน สวยเดิม พร้อมบัตรรับรองพระแท้


บาท

25-2-66
พระบูชารูปเหมือนสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์เจริญ


โชว์ บาท

25-2-66
พระรูปเหมือนใบธิ์ เนื้อนวโลหะ ปี 2512 แบบตอกโค๊ด


30000 บาท

25-2-66
พระนาคปรกใบขนุนเนื้อชินสังฆวานร พระสวยเดิม


9500 บาท

25-2-66
พระนาคปรกใบโพธิ์ 7 เศียร พิมพ์เล็กเนื้อนวโลหะ


AC บาท
บูชาแล้ว

25-2-66
เหรียญกนกข้างพิมพ์ใหญ่บล็อก ม.มีจุด (นิยม)


18500 บาท

25-2-66
พระไตรภาคีพิมพ์รูปเหมือนใหญ่เลี่ยมทองอย่างหนา


BD บาท
บูชาแล้ว

24/2/2566
พระปิดตา พิมพ์ตุ๊กตาใหญ่ เนื้อผงใบลาน ฝังตะกรุด


57000 บาท

24/2/2566
เหรียญเขียวในโลง หายาก เป็นเหรียญที่ใส่ไว้ในโลงท่านฯ


โทรถาม บาท

24/2/2566
พระสมเด็จ 3 ชั้นหลังยันต์นูน (เนื้อน้ำอ้อย)พิมพ์จัมโบ้


8000 บาท

21/02/66
เหรียญหลังเต่ารุ่นแรก บล็อกยันต์เคลื่อน


48000 บาท

6/10/65
เหรียญเขียวในโลง (เหรียญเอเชียนเกมส์) หายาก


โทรถาม บาท

6/10/65
พระผงหลวงพ่อพรหม รุ่นฉลองมณฑป พิมพ์ระฆังใหญ่


โทรถาม บาท

9/8/65
พระกริ่งสายฟ้า ตอกโค๊ต 1 ตัว


โทรถาม บาท

28/06/63
พระบูชารูปเหมือนท่านเจ้าคุณนรฯ รุ่นแรกหน้าตัก 5 นิ้ว


โทรถาม บาท

27/12/61
ออกใบรับรองพระแท้ ตอนนี้ท่านสามารถออกใบรับรองพระแท้ได้แล้วนะครับ ในนามร้านศักดิ์ ตลิ่งชัน


บาท

พระเครื่องแนะนำทั้งหมด